S&P500

ภาพรวมของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี:

* Dow -2.5%,

* NASDAQ -4.3%,

* S&P 500 -3.5% S&P 500 ปิดที่ 5,268 ภายในช่วง 4,800 ถึง 5,800

การพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจของตลาดเมื่อวันพุธ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศหยุดการขึ้นภาษีตอบโต้มานาน 90 วัน สำหรับประเทศส่วนใหญ่ ไม่สามารถขยายผลต่อไปได้ถึงวันพฤหัสบดี

ดัชนีตลาดหลักเปิดตลาดในระดับต่ำกว่าและอยู่ในพื้นที่ลบทั้วช่วงการซื้อขาย แม้ว่าขาดทุนจะลดลงในระหว่างวันก็ตาม ที่จุดต่ำสุดระหว่างวัน Dow, Nasdaq, S&P 500, S&P 400, และ Russell 2000 ร่วง 5.4%, 7.2%, 6.3%, 6.5%, และ 6.5% ตามลำดับ แต่ในที่สุดวันนั้นก็ปิดตัวลดลง 2.5%, 4.3%, 3.5%, 4.1%, และ 4.3%

การถอนตัวที่รุนแรงในวันพฤหัสบดีเกิดจากการตระหนักที่เพิ่มขึ้นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ "ผ่านพ้นวิกฤต" นี่เป็นเพียงการหยุดชั่วคราวในภาษีตอบโต้ โดยที่ภาษีพื้นฐาน 10% ยังคงบังคับใช้

ในขณะเดียวกัน ภาษีที่รุนแรงยังคงใช้กับจีน โดยอัตราภาษีดังกล่าวจากคำชี้แจงของทำเนียบขาวอยู่ที่ 145% (ประกอบด้วยภาษีตอบโต้ 125% บวกกับภาษี 20% ที่เกี่ยวกับเฟนทานิล)

ตลาดหุ้นเปิดทำการวันพฤหัสบดีด้วยการขายอย่างแรงจากนักลงทุนที่มีความกังวล เห็นว่าการพุ่งขึ้นเมื่อวันพุธเป็นการเปิดโอกาสให้ขายที่ราคาสูงขึ้น เพื่อลดความเจ็บปวดจากการขาดทุนหลังประกาศเก็บภาษีเมื่อวันที่ 2 เมษายน

ความเห็นจากเจ้าหน้าที่ Fed หลายคนทำให้ชัดเจนว่า ธนาคารกลางกังวลเกี่ยวกับภาษีที่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ และดังนั้นจึงลังเลที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

ผลประกอบการที่น่าผิดหวังยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน CarMax (KMX 66.43, -15.62, -19.5%) รายงานผลประกอบการที่แย่กว่าที่คาดไว้

มีความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลาง สภาผ่านมติด้านงบประมาณที่รวมถึงการลดภาษีที่บางคนกลัวว่าอาจไม่สามารถชดเชยด้วยการลดค่าใช้จ่ายที่เพียงพอ ในที่สุดอาจทำให้ขาดดุลที่มากขึ้น

มูลค่าดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก น่าจะเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของสหรัฐฯ เรื่องขาดดุล และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่ลดลงท่ามกลางความแปรปรวนทางการเมือง ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.9% เหลือ 100.98

ที่น่าสนใจ รายงาน CPI ของเดือนมีนาคมให้ข่าวเงินเฟ้อในด้านบวก แต่ไม่สามารถหนุนตลาดได้ นักค้าคาดว่าจะมีการขึ้นราคาสูงขึ้นในเดือนหน้าที่ภาษีจะเริ่มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

สิบในสิบเอ็ดภาคของ S&P 500 จบท้ายวันด้วยการขาดทุน ภาคเดียวที่มีกำไลคือ ภาคสินค้าจำเป็นสำหรับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นการลงทุนป้องกัน (+0.2%)

ภาคพลังงานแสดงผลการดำเนินงานแย่สุด (-6.4%), ตามด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (-4.6%), สินค้าฟุ่มเฟือย (-4.1%), บริการสื่อสาร (-4.1%), และวัสดุ (-3.0%)

ดัชนี Philadelphia Semiconductor ซึ่งเพิ่มขึ้น 18.7% ในวันพุธ ตกลง 8.0% ในวันพฤหัสบดี ขณะที่ Vanguard Mega-Cap Growth ETF (MGK) ซึ่งเพิ่มขึ้น 12.2% ลดลง 4.1%

ใน NYSE หุ้นที่ลดลงมีมากกว่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 8 ต่อ 1; ใน Nasdaq ทำเช่นเดียวกันที่มากกว่า 4 ต่อ 1

ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี:

* Dow Jones Industrial Average: -7.1%

* S&P 500: -10.4%

* S&P Midcap 400: -14.0%

* Nasdaq Composite: -15.1%

* Russell 2000: -17.9%

ปฏิทินเศรษฐกิจวันพฤหัสบดี

* CPI หัวข้อหลักของเดือนมีนาคมลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (คาดการณ์: +0.1%) และเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับปีต่อปี ลดลงจาก 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์

* Core CPI เพิ่มขึ้น 0.1% MoM (คาดการณ์: +0.3%) และ 2.8% YoY เมื่อเทียบกับ 3.1% ในเดือนกุมภาพันธ์

ข้อสรุปหลัก: แม้ว่ารายงาน CPI จะดีกว่าที่คาด แต่ไม่ได้ถูกรับรู้ว่าเป็นการปรับปรุงระยะยาวเนื่องจากผลกระทบของภาษีที่ยังค้างอยู่ในห่วงโซ่อุปทาน

* การเรียกร้องเริ่มต้นสำหรับคนว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 เมษายน เพิ่มขึ้น 4,000 เป็น 223,000 (คาดการณ์: 225,000)

* การเรียกร้องต่อเนื่องสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มีนาคม ลดลง 43,000 เหลือ 1.850 ล้าน

ข้อสรุปจากข้อมูลการเรียกร้องคนว่างงาน: การเรียกร้องต่ำต้นทางยังคงสนับสนุนความเข้าใจว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและเศรษฐกิจยังคงอยู่ในโหมดการเติบโต

งบประมาณกระทรวงการคลังเดือนมีนาคม:

* ขาดดุล 160.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 236.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว

* ขาดดุลเดือนมีนาคมเกิดจากการใช้จ่าย 528.2 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับรายรับ 367.6 พันล้านดอลลาร์

ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ถูกปรับตามฤดูกาล และไม่ควรถูกเปรียบเทียบโดยตรงกับขาดดุลเดือนกุมภาพันธ์ 307 พันล้านดอลลาร์ ข้อสรุปหลัก: ขาดดุล FY2025 มีขนาดใหญ่กว่าเดิมที่ 23% ในช่วงเวลาเดียวกับ FY2024

ปฏิทินเศรษฐกิจวันศุกร์

* 08:30 ET: PPI เดือนมีนาคม (คาดการณ์: +0.1%; ก่อนหน้านี้: 0.0%) และ Core PPI (คาดการณ์: +0.3%; ก่อนหน้านี้: -0.1%)

* 10:00 ET: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสำหรับเดือนเมษายน (คาดการณ์: 54.8; ก่อนหน้านี้: 57.0)

ตลาดพลังงาน. Brent crude ที่ $63.70 – น้ำมันยังคงรวมตัวอยู่ในช่วง $61–$65

ข้อสรุป: นักวิเคราะห์หนึ่งคนตั้งคำถามที่ถูกต้อง: อะไรที่ทำให้ทรัมป์ตกใจจนเลื่อนภาษีกว้างขวางออกไปนาน 90 วัน—สำหรับทุกคนยกเว้นจีน? คำตอบง่าย ๆ: ทรัมป์ตกใจจากการเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังจะทะลุ 4.5% ซึ่งสนับสนุนทฤษฎีทางอ้อมที่ว่าจุดประสงค์แท้จริงของทรัมป์ในการขึ้นภาษีคือเพื่อปรับปรุงสถานการณ์หนี้ของสหรัฐฯ อันที่จริง ทรัมป์กล่าวว่าเมื่อวานนี้ว่าเขาต้องการใช้รายได้จากภาษีเพื่อลดหนี้ชาติ

ไม่ว่าอย่างไร S&P 500 กำลังซื้อขายในช่วงกว้างระหว่าง 4,800 และ 6,000

ยุทธศาสตร์ของเรา: ซื้อในช่วงล่างของช่วงและล็อกกำไรใกล้ส่วนบน